ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเกม เพื่อพัฒนาทักษะการเขียน
สะกดคำภาษาไทยไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้ศึกษา นางสาวฤทัยรัตน์ ขำแข
ที่ทำงาน โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด
(กวีธรรมสาร) อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
ปีที่ศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเกม
เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำภาษาไทยไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถม
ศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ภาคเรียนที่
1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด (กวีธรรมสาร) อำเภอเมือง
จังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 39
คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง
(Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้
คือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเกม
เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำภาษาไทยไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
4 จำนวน
4 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังการใช้ชุดกิจกรรมแบบปรนัย เลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale)
5 ระดับ
จำนวน 10
ข้อ และแผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 18 แผน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเกม เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำภาษาไทย
ไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเฉลี่ยเท่ากับ 85.31/86.86
ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเกม
เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำภาษาไทยไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ
21.08 และมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 25.18 เมื่อนำไปเทียบกับค่าที (t-test) พบว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยการใช้
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับเกม เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำภาษาไทยไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมในระดับความพึงพอใจมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58